ยาสูตรผสมระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามินดี 2 (calcium carbonate and vitamin D2) วิตามินดี 2 อาจเรียกว่า เออร์โกแคลซิเฟอรอล (ergocalciferol) หรือแคลซิเฟอรอล (calciferol) ยาสูตรผสมนี้ใช้เพื่อเสริมแคลเซียมและวิตามินดีสำหรับผู้ที่มีภาวะขาดแคลเซียมและวิตามินดีหรือมีความเสี่ยงในการขาด เช่น ผู้ที่ได้รับแคลเซียมและวิตามินดีจากอาหารที่รับประทานตามปกติไม่เพียงพอ รวมทั้งผู้ที่มีความต้องการแคลเซียมเพิ่มขึ้น เช่น ผู้เป็นโรคกระดูกพรุน, ผู้สูงอายุที่อยู่แต่ในบ้านซึ่งไม่ได้สัมผัสแสงแดด และใช้ป้องกันหรือรักษาภาวะต่าง ๆ ที่ทำให้ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ เช่น ผู้มีระดับฮอร์โมนพาราไทรอยด์ต่ำ
แพทย์อาจสั่งใช้ยานี้เพื่อรักษาโรคหรืออาการอื่นที่นอกเหนือจากนี้ ควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากแพทย์และเภสัชกร
แคลเซียมมีความจำเป็นในการทำให้กระดูกแข็งแรง และมีความจำเป็นสำหรับการทำงานของหัวใจ กล้ามเนื้อ และระบบประสาท กระดูกเป็นแหล่งเก็บแคลเซียมในร่างกาย โดยกระดูกจะปล่อยแคลเซียมออกไปในกระแสเลือดอย่างต่อเนื่อง เมื่อในเลือดมีแคลเซียมไม่เพียงพอที่จะใช้ในการทำงานของหัวใจและอวัยวะต่าง ๆ ก็จะมีการดึงแคลเซียมออกมาจากกระดูก และเมื่อรับประทานอาหารที่มีแคลเซียม แคลเซียมจะไปสะสมอยู่ที่กระดูก เพื่อให้เกิดการสมดุลของแคลเซียมที่กระดูกและในเลือด หากร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอก็จะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้
สตรีมีครรภ์, ผู้ให้นมบุตร, เด็ก และวัยรุ่นอาจต้องการแคลเซียมมากกว่าที่ได้รับจากอาหารตามปกติ ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนอาจได้รับแคลเซียมเสริมเพื่อป้องกันภาวะกระดูกพรุน (osteoporosis) ซึ่งทำให้กระดูกหักได้ง่าย ภาวะกระดูกพรุนในผู้หญิงที่หมดประจำเดือนเกิดจากปริมาณฮอร์โมนเอสโทรเจนที่รังไข่ผลิตได้น้อยลงและทำให้กระดูกบางลง อย่างไรก็ตามการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมต่ำในวัยเด็กและวัยรุ่นยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุนได้มากขึ้น
ขนาดของยาแคลเซียมคาร์บอเนตต้องพิจารณาตามปริมาณแคลเซียมที่มีอยู่ในแคลเซียมคาร์บอเนต โดยแคลเซียมคาร์บอเนต 100 กรัมมีปริมาณแคลเซียม 40 กรัม ดังนั้นปริมาณแคลเซียมในยาที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตปริมาณต่าง ๆ เป็นดังนี้
วิตามินดีมีความจำเป็นในการทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง การขาดวิตามินดีทำให้เกิดโรคกระดูกอ่อน (rickets) ในเด็ก และทำให้เกิดโรคกระดูกน่วม (osteomalacia) ในผู้ใหญ่ นอกจากนี้วิตามินดียังช่วยในการดูดซึมแคลเซียมในทางเดินอาหาร และช่วยป้องกันไม่มีการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก
โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆ หรือมีประวัติการแพ้แคลเซียมคาร์บอเนต (calcium carbonate) หรือ วิตามินดี 2 (vitamin D2) หรือส่วนประกอบใด ๆ ในยาเหล่านี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร สารกันเสียหรือสี เป็นต้น
ไม่มีข้อมูลการจัดยาสูตรผสมระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามินดี 2 (calcium carbonate and vitamin D2) ว่าอยู่ในประเภทใดของการจัดกลุ่มยาที่มีผลต่อสตรีมีครรภ์ (pregnancy category)
สตรีมีครรภ์จำเป็นต้องได้รับแคลเซียมและวิตามินดีอย่างเพียงพอ เพราะมีความจำเป็นสำหรับการเจริญของทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาสูตรผสมระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามินดี 2 ในปริมาณมากในระหว่างมีครรภ์ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทั้งแม่ และ/หรือ ทารกในครรภ์
สตรีกำลังให้นมบุตรต้องได้รับแคลเซียมและวิตามินดีอย่างเพียงพอ เพราะมีความจำเป็นสำหรับการเจริญของทารกที่ดื่มนม อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาสูตรผสมระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามินดี 2 (calcium carbonate and vitamin D2) ในปริมาณมากในระหว่างให้นมบุตร เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทั้งแม่ และ/หรือ ทารกที่ดื่มนม
ไม่มีรายงานว่าพบปัญหาใด ๆ ในเด็กที่รับประทานยาสูตรผสมระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามินดี 2 (calcium carbonate and vitamin D2) ตามปริมาณแคลเซียมและวิตามินดีที่ควรได้รับตามปกติต่อวัน
ไม่มีรายงานว่าพบปัญหาใด ๆ ในผู้สูงอายุที่รับประทานยาสูตรผสมระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามินดี 2 (calcium carbonate and vitamin D2) ตามปริมาณแคลเซียมและวิตามินดีที่ควรได้รับตามปกติต่อวัน
ผู้สูงอายุควรได้รับแคลเซียมในอาหารอย่างเพียงพอทุกวัน ผู้สูงอายุบางรายอาจต้องได้รับแคลเซียมในปริมาณสูงขึ้น เช่น ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนมีความต้องการแคลเซียมสูงกว่าคนหนุ่มสาว
ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น เมื่อท่านต้องการจะรับประทานยาที่มีสูตรผสมระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามินดี 2 (calcium carbonate and vitamin D2) ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์ หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้
ก. ยาที่แคลเซียมคาร์บอเนตมีผลรบกวนการดูดซึม ทำให้ยาถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดลดลง และลดผลการรักษาได้ เช่น
หากจำเป็นต้องใช้ร่วมกันควรรับประทานยาแคลเซียมคาร์บอเนตห่างจากการรับประทานยาเหล่านี้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง ยกเว้น ไอโซไนอาซิด (isoniazid) อาจรับประทานห่างจากยาแคลเซียมคาร์บอเนตอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
ข. ยาที่แคลเซียมในสูตรผสมระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามินดี 2 อาจลดผลของยา
ค. ยาที่หากใช้ร่วมกับยาสูตรผสมระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามินดี 2 จะทำให้มีระดับแคลเซียมในเลือดสูงและทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่เป็นอันตรายได้
ง. ยาที่หากใช้ร่วมกับยาสูตรผสมระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามินดี 2 จะทำให้มีระดับแมกนีเซียมในเลือดสูงและทำให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคไต
ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยาสูตรผสมระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามินดี 2 (calcium carbonate and vitamin D2) ท่านควรแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านมีสภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น
ยาสูตรผสมระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามินดี 2 (calcium carbonate and vitamin D2) มีจำหน่ายในรูปแบบยาเม็ด หรือแคบเลทซึ่งเป็นยาเม็ดที่มีลักษณะรีคล้ายแคปซูล ให้ใช้ตามคำแนะนำตามฉลากยา หรือใช้ตามแนวทางทั่วไป ดังนี้
ขนาดยาสูตรผสมระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตและวิตามินดี 2 (calcium carbonate and vitamin D2) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ เภสัชกร หรือ ตามที่ระบุไว้บนฉลากยา
หากท่านลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ ถ้าใกล้ถึงมื้อต่อไปให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับผู้ใช้ยาทุกราย ยานี้อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์มากขึ้น ในกรณีที่ใช้ยามากเกินไป นานเกินไป หรือ ใช้ในผู้ที่เป็นโรคไต และหากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ก. ควรพบแพทย์ทันที หากมีอาการไม่พึงประสงค์ต่อไปนี้
ข. อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาเนื่องจากร่างกายจะปรับตัว เข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนาน หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
พบบ่อย
ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้
ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้
Calcium acetate, Calcium carbonate, Calcium carbonate and Calcium gluconolactate or Calcium lactate-gluconate, Calcium carbonate and Vitamin C, Calcium carbonate and Vitamin D3 (Colecalciferol), Calcium carbonate, Calcium gluconate and Calcium lactate, Calcium carbonate, Calcium gluconate, Calcium citrate and Vitamin D3 (Colecalciferol), Calcium carbonate, Calcium lactate-gluconate and Vitamin C, Calcium carbonate, Ferrous fumarate and Zinc, Calcium carbonate, Magnesium sulfate and Zinc sulfate, Calcium carbonate, Tribasic calcium phosphate, Calcium fluoride, Magnesium hydroxide, Vitamin D3 (Colecalciferol), Calcium carbonate, Tribasic calcium phosphate, Magnesium hydroxide, Calcium carbonate, Vitamin D, Vitamin C and Vitamin B6, Calcium carbonate, Vitamin D3 (Colecalciferol), Magnesium, Zinc, Boron, Copper, Manganese , Calcium citrate and Vitamin D3 (Colecalciferol), Calcium citrate or Calcium citrate tetrahydrate, Calcium gluconate, Calcium lactate, Calcium carbonate, Vitamin D and Vitamin C
ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้
Prima-cal plus vitamin D, tab (พรีมา-แคล พลัส วิตามินดี)
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว