อ่าน: 236

Tegafur and Uracil (ยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล)

คำอธิบายพอสังเขป

ยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) เป็นต้านมะเร็ง

เทกาเฟอร์ (tegafur) เป็นอนุพันธุ์เททราไฮโดรฟิวรานิลของฟลูออโรยูราซิล (tetrahydrofuranyl derivative of 5-fluorouracil) เมื่อถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดเทกาเฟอร์จะถูกเปลี่ยนเป็นฟลูออโรยูราซิล จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสารออกฤทธิ์ที่อยู่ในรูปของนิวคลีโอไทด์ (nucleotide) ที่ชื่อว่าฟลูออโรดีออกซียูริดีนโมโนฟอสเฟต (fluorodeoxyuridine monophosphate) แล้วจับกับเอนไซม์ไทมิดิเลตซินเทส (thymidylate synthase) ทำให้เอนไซม์นี้หมดฤทธิ์ไป จึงทำให้ไม่สามารถสังเคราะห์สารไทมิดีน (thymidine) ที่จะนำมาสร้างเป็นสายดีเอ็นเอ (DNA) ได้ และยังมีนิวคลีโอไทด์ในรูปไทรฟอสเฟต (triphosphate nucleotide) ที่จะเข้าไปรวมกับอาร์เอ็นเอ (RNA) ทำให้ทำหน้าที่ผิดปกติไป

ยูราซิล (uracil) ทำหน้าที่ยับยั้งเอนไซม์ไดไฮโดรไพริมิดีนดีไฮโดรจีเนส (dihydropyrimidine dehydrogenase) ซึ่งทำลายฟลูออโรยูราซิล (5-fluorouracil) ได้อย่างรวดเร็ว ยูราซิลจึงช่วยให้ฟลูออโรยูราซิลถูกทำลายช้าลง ทำให้อยู่ในเซลล์มะเร็งและออกฤทธิ์ได้นานขึ้น

  • ยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) ใช้รักษาของมะเร็ง (เยื่อบุ) ลำไส้ใหญ่และไส้ตรงระยะแพร่กระจาย (metastatic colorectal cancer) โดยใช้ร่วมกับยาแคลเซียมโฟลิเนต (calcium folinate) เพื่อเสริมฤทธิ์กันในการทำลายเซลล์มะเร็ง

ยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล อาจใช้เพื่อรักษาโรคมะเร็งอื่น ๆได้อีก ดังนั้นหากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร

ก่อนการใช้ยา

การแพ้ยา

โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆหรือมี ประวัติการแพ้ยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) หรือฟลูออโรยูราซิล (fluorouracil) หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร, สารกันเสีย, สี เป็นต้น

อาหารและเครื่องดื่มที่ต้องระวัง

  • ยาเคมีบำบัดมีผลต่อไขกระดูกทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดขาวลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย ควรรับประทานอาหารที่สะอาด และปรุงสุกเเล้วใหม่ ๆ ควรงดรับประทานผักสด หรือผลไม้ที่รับประทานทั้งเปลือก หากต้องการรับประทานควรล้างให้สะอาดและปอกเปลือกก่อนรับประทาน
  • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ระหว่างใช้ยานี้

ตั้งครรภ์

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'D' สำหรับสตรีมีครรภ์

ยามีความเสี่ยงในการก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตาม อาจใช้ยานี้ได้ หากพิจารณาแล้วว่าประโยชน์จากการใช้ยามีมากกว่าความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ ดังนั้นการพิจารณาใช้ยาให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์

ยังไม่มีการศึกษาการใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์ แต่จากกลไกการออกฤทธิ์ยานี้อาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวทารกในครรภ์ จึงห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ เว้นแต่แพทย์พิจารณาแล้วว่ามีผลดีต่อมารดามากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดต่อทารกในครรภ์

โปรดแจ้งแก่แพทย์หากกำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนจะมีบุตร เนื่องจากยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) มีโอกาสที่จะทำให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ โดยไม่เว้นว่าจะเป็นฝ่ายชายหรือหญิงที่ได้รับยานี้

ระหว่างใช้ยานี้ควรใช้วิธีคุมกำเนิด ทั้งในผู้ป่วยเพศชาย หรือเพศหญิง และคุมกำเนิดต่อไปอย่างน้อย 3 เดือน หลังจากสิ้นสุดการรักษา

กำลังให้นมบุตร

โปรดแจ้งแก่แพทย์หากท่านกำลังให้นมบุตร หรือตั้งใจจะให้นมบุตรในระหว่างที่ได้รับยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) เนื่องจากยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง จึงไม่แนะนำให้ทารกได้รับน้ำนมมารดาระหว่างใช้ยานี้

เด็ก

ยังไม่มีการพิสูจน์ถึงประสิทธิผลและความปลอดภัยของยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) ในเด็ก

ผู้สูงอายุ

ควรใช้ยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยสูงอายุ เนื่องจากผู้ป่วยสูงอายุมีการทำงานของตับ, ไต หรือ การทำงานของหัวใจที่ลดลง หรือมีภาวะโรคร่วมอื่น ๆ ที่อาจเพิ่มอาการไม่พึงประสงค์จากยา

ยาอื่นที่ใช้อยู่

ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้ร่วมอยู่ด้วย

วัคซีนโรคหัดชนิดตัวเป็น (measles virus vaccine, live) วัคซีนโรคคางทูมชนิดตัวเป็น (mumps virus vaccine, live)
วัคซีนโรคโปลิโอชนิดตัวเป็น (poliovirus vaccine, live) วัคซีนโรตาไวรัสชนิดตัวเป็น (rotavirus vaccine, live)
วัคซีนโรคหัดเยอรมันชนิดตัวเป็น (rubella virus vaccine, live) วัคซีนโรคฝีดาษ (smallpox vaccine)
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดตัวเป็น (influenza virus vaccine, live) วัคซีนไข้เหลือง (yellow fever vaccine)
วัคซีนวัณโรค (BCG vaccine) วัคซีนไทฟอยด์ชนิดตัวเป็น (typhoid vaccine, live)
วัคซีนโรคอีสุกอีใส (varicella virus vaccine)
วอร์ฟาริน (warfarin) เมโทรนิดาโซล (metronidazole) เฟนิทอยน์ (phenytoin)
แอมโฟเทอริซิน บี (amphotericin B) ยาต้านไทรอยด์ (antithyroid agents)
แอซาไทโอพรีน (azathioprine) คลอแรมเฟนิคอล (chloramphenicol)
คอลชิซีน (colchicines) ฟลูไซโทซีน (flucytosine)
พลิคามัยซิน (plicamycin) ไซโดวูดีน (zidovudine)
ไซเมทิดีน (cimetidine) เจมไซทาบีน (gemcitabine)
ไฮโดรคลอโรไทอาไซด์ (hydrochlorothiazide) เลวาไมโซล (levamisole)
ทามอกซิเฟน (tamoxifen) ทินิดาโซล (tinidazole)

ภาวะโรคร่วม

ภาวะโรคร่วม
ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยาฟลูออโรยูราซิล (fluorouracil) ท่านควรแจ้งแพทย์หากท่านมีภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น

  • โรคอีสุกอีใส อาจทำให้โรครุนแรงขึ้น
  • โรคงูสวัด อาจทำให้โรครุนแรงขึ้น
  • โรคติดเชื้อต่างๆ ยาฟลูออโรยูราซิล (fluorouracil) จะลดภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • โรคตับหรือไต อาจเพิ่มอาการพิษจากยา เนื่องจากยาถูกขับออกจากร่างกายได้ช้าลง
  • มีภาวะขาดเอนไซม์ไดไฮโดรไพริมิดีนดีไฮโดรจีเนส (dihydropyrimidine dehydrogenase enzyme deficiency)

การใช้ที่ถูกต้อง

ยามีจำหน่ายในรูปแบบแคปซูลรับประทาน

  • รับประทานยาขณะท้องว่าง (อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนหรือหลังอาหาร) โดยกลืนยาทั้งเม็ด แล้วดื่มน้ำตามมาก ๆ
  • ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด ใช้ยาจนครบระยะเวลาการรักษา
  • ในระหว่างที่รับประทานยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) ท่านอาจได้รับยาเเคลเซียมโฟลิเนต (calcium folinate) ร่วมด้วย เพื่อเสริมฤทธิ์กันในการรักษามะเร็ง ควรรับประทานยาตามที่เเพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • ยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) อาจทำให้ท่านมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท่านไม่ควรหยุดใช้ยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
  • ควรให้ความร่วมมือในการติดตามผลการรักษาเป็นระยะ โดยมาตรวจตามแพทย์นัด และรับยาตามแผนการรักษา การได้ยาไม่ครบ หรือระยะเวลาไม่ตรงกำหนด ก่อให้เกิดผลเสียต่อการรักษา ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องเลื่อนระยะเวลาการให้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง

ขนาดยา

ขนาดยาของยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น น้ำหนัก ส่วนสูงของผู้ป่วย ชนิดและระยะของโรคมะเร็งที่ผู้ป่วยเป็น รวมทั้งผลการตอบสนองต่อยาของผู้ป่วยแต่ละราย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วิเคราะห์ แนะนำ และกำหนดเวลา และมีเภสัชกร ตรวจสอบขนาดยาที่ท่านได้รับ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วย นอกจากนี้ความถี่ของการให้ยาเทกาเฟอร์และยูราซิลอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสูตรยาที่ใช้ และสภาพร่างกายของผู้ป่วย เช่น ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน บางครั้งอาจต้องหยุดยาชั่วคราว เพื่อให้ร่างกายมีเวลาพัก และซ่อมแซมเซลล์ปกติให้แข็งแรงพอที่จะให้ยาในครั้งต่อไปได้

เมื่อลืมใช้ยา

หากท่านลืมรับประทานยาข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยา ปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า และแจ้งให้แพทย์ทราบ

การเก็บรักษา

  • เก็บในภาชนะปิดสนิทให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บให้ห่างจากความร้อนและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • ห้ามเก็บยาไว้ในห้องน้ำ ใกล้อ่างล้างมือหรือที่ชื้น เนื่องจากความร้อนหรือความชื้นอาจเป็นสาเหตุให้ยาเสื่อมคุณภาพ
  • ทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ

ข้อควรระวัง

  • ยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) มีผลต่อไขกระดูกทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และเม็ดเลือดแดงลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย หรือภาวะเลือดออกง่าย
  • ควรหลีกเลี่ยงการพบปะกับคนที่เป็นหวัด หัด สุกใส วัณโรค มีไข้ หรือติดเชื้ออื่นๆ หากมีอาการผิดปกติ ได้แก่ ไข้สูง หนาวสั่น ปัสสาวะแสบขัด เจ็บคอ ท้องเสีย เหนื่อยหอบผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ และแจ้งแพทย์ทุกครั้งว่าท่านกำลังรักษาด้วยยาเคมีบำบัดอยู่
  • ระหว่างที่ได้รับการรักษาด้วยยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) ท่านไม่ควรได้รับวัคซีนใด ๆ โดยไม่ได้แจ้งแพทย์ เนื่องจากยาทำให้ภูมิคุ้มกันของท่านลดลง และมีโอกาสติดเชื้อจากวัคซีนที่ท่านได้รับ นอกจากนี้บุคคลที่ท่านอาศัยอยู่ด้วยก็ไม่ควรได้รับวัคซีนโปลิโอ เพราะอาจทำให้ท่านได้รับเชื้อไวรัสโปลิโอได้
  • ควรพบแพทย์ทันทีถ้าท่านมีเลือดออกผิดปกติ ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือด ควรระมัดระวังการใช้ไหมขัดฟัน หรือไม้จิ้มฟัน และแจ้งทันตแพทย์ทุกครั้งว่าใช้ยานี้อยู่
  • อาการไม่พึงประสงค์ที่มีความรุนแรง เช่น ปากอักเสบ (stomatitis), ท้องเสีย (diarrhea), ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (neutropenia) และ พิษต่อระบบประสาท (neurotoxicity) จากยาฟลูออโรยูราซิล (fluorouracil) สัมพันธ์กับภาวะขาดเอนไซม์ไดไฮโดรไพริมิดีนดีไฮโดรจีเนส (dihydropyrimidine dehydrogenase enzyme deficiency) เนื่องจากการขาดเอนไซม์นี้ทำให้ยาถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ช้าลง
  • มีรายงานการเกิดพิษต่อตับที่รุนแรงในผู้ป่วยที่ใช้ยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) ผู้ป่วยที่ได้รับยานี้อาจได้รับการตรวจค่าการทำงานของตับ หากท่านมีอาการของตับอักเสบ หรือโรคตับอื่น ๆ เช่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียนมาก ตัวเหลืองตาเหลือง ควรรีบกลับไปพบแพทย์
  • ควรใช้ยานี้ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยที่มีประวัติโรคหัวใจ เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (myocardial ischaemia) เนื่องจากเคยมีรายงานผู้ป่วยเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย (myocardial infarction) ในระหว่างที่ได้รับยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล
  • การรับประทานยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง ผู้ป่วยที่มีอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อให้ได้รับการทดแทนสารน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไปเพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจากภาวะขาดน้ำ

อาการไม่พึงประสงค์

อาจไม่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด แต่หากเกิดอาการข้างเคียงขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม

ก. พบแพทย์ทันหากมีอาการต่อไปนี้
พบบ่อย

  • ท้องร่วง, แสบร้อนยอดอก,เจ็บปาก หรือริมฝีปาก
  • ยาสูตรผสมเทกาเฟอร์และยูราซิล (tegafur and uracil) อาจทำให้เกิดกลุ่มอาการพาลมาร์-แพลนเทอร์ อีริโทรดีอีสทีเซีย (palmar-planter erythrodysesthesia syndrome) หรือกลุ่มอาการ มือ-เท้า (hand-foot syndrome) ซึ่งเกิดจากยาปริมาณน้อย ๆ ค่อย ๆ รั่วออกจากหลอดเลือดขนาดเล็กที่มือและเท้า ยาที่รั่วออกมาจึงทำลายเนื้อเยื่อที่อยู่รอบ ๆ หลอดเลือด โดยเริ่มแรกอาจมีความรู้สึกเหมือนมีหนามแทงปลายมือ ปลายเท้า จากนั้นอีก 2-3 วัน จะรู้สึกเจ็บ ปวด ขณะจับสิ่งของ หรือเดิน ฝ่ามือและฝ่าเท้า บวม แดง ทั้งสองข้าง อาจมีผิวหนังลอกร่วมด้วย

พบน้อย
  • อุจจาระดำ,ไอหรือเสียงแหบร่วมกับมีไข้หรือสั่น , ไข้หรือสั่น, ปวดบั้นเอวร่วมกับมีไข้, คลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง, ปัสสาวะขัด, ปวดท้อง

พบน้อยมาก

  • อุจจาระ ปัสสาวะเป็นเลือด, จุดแดงบนผิวหนัง, เลือดออกผิดปกติ หรือมีจ้ำเลือด

ข. พบแพทย์โดยด่วน หากมีอาการต่อไปนี้
พบน้อยมาก

  • เจ็บหน้าอก, ไอ, หายใจสั้น, รู้สึกเจ็บปลายมือ ปลายเท้า ตามด้วยบวม แดง

ค. อาการข้างเคียงอื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการข้างเคียงเหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาหรือหยุดยาไปแล้วเนื่อง จากร่างกายจะปรับตัวเข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนาน หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
พบบ่อย

  • เบื่ออาหาร , คลื่นไส้อาเจียน,ท้องเสีย, อ่อนเพลีย, ผื่นผิวหนัง

พบน้อย

  • ผิวแห้งแตก

ยานี้อาจทำให้ผมร่วงขณะใช้ยา หลังจากหยุดยาแล้วผมจะกลับมางอกตามปกติ

ง. อาการข้างเคียงอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการข้างเคียงอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

กลุ่มยา

ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้

ยาที่เกี่ยวข้อง

ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้

Azacitidine, Capecitabine, Cladribine , Cytarabine (Ara-C) , Decitabine, Fludarabine , Fluorouracil (5-FU) , Gemcitabine, Mercaptopurine or 6-Mercaptopurine (6-MP) , Methotrexate , Pemetrexed, Thioguanine or 6-Thioguanine

ชื่อทางการค้า

ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้

UFT capsule, Ufur capsule (ยูเฟอร์ แคปซูล), Tegaracil cap (เทการาซิล แคป)

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว

แหล่งอ้างอิง

  1. กองควบคุมยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นทะเบียนยาสามัญสำหรับยาเดี่ยว. Tegafur . Available at: http://wwwapp1.fda.moph.go.th/ed2547/?url=14 Access Date: June 14, 2010.
  2. วิลาวัณย์ พิชัยรัตน์ และ สมสมัย สุธีรศานต์. การดูแลตนเองเมื่อได้รับยาเคมีบำบัด [สำหรับผู้ป่วยเเละครอบครัว] พิมพ์ครั้งที่ 2 . โรงพยาบาลสงขลานครินทร์. 2552 หน้า 5-19
  3. CPM medica. MIMS Thailand Online. Available at: http://www.mims.com. Access Date: July 3, 2010.
  4. DRUGDEX® System:Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at: http://www.thomsonhc.com (cited: July 3, 2010.).
  5. The electronic Medicines Compendium (eMC) .Tegafur. Available at: http://www.medicines.org.uk/EMC/medicine/4399/SPC/Uftoral+Hard+Capsules/ . Access Date: July 3, 2010.

ไตรรัตน์ แก้วเรือง
โพยม วงศ์ภูวรักษ์
03 กรกฎาคม 2553 27 กันยายน 2553
เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย