ไทรแอมซิโนโลน (triamcinolone) เป็นยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตอรอยด์ (corticosteroids) หรืออาจเรียกสั้น ๆ ว่า “สเตอรอยด์” หรือ “สเตียรอยด์” ไทรแอมซิโนโลนมีฤทธิ์ลดอาการอักเสบและการแพ้ เช่น อาการระคายเคือง บวม แดง คัน
ไทรแอมซิโนโลนใช้รักษาโรคต่าง ๆ เช่น
ไทรแอมซิโนโลนอาจใช้เพื่อรักษาโรคอื่น ๆ ได้อีก ดังนั้นหากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
ยากลุ่มคอร์ติโคสเตอรอยด์ หรือ สเตอรอยด์ หรือ สเตียรอยด์ เป็นยาที่มีอาการข้างเคียงมากมาย และอาจทำให้เกิดอันตรายที่รุนแรงมาก จึงไม่ควรใช้ยาพร่ำเพรื่อ การใช้ยาต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์
โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆหรือมี ประวัติการแพ้ยาไทรแอมซิโนโลน (triamcinolone) หรือยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตอรอยด์ (corticosteroids) หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่น ๆ เช่น อาหาร, สารกันเสีย, สี เป็นต้น
หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ระหว่างใช้ยานี้ เนื่องจากเพิ่มการระคายต่อทางเดินอาหาร
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์
จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์
ไม่มีการศึกษาการใช้ยานี้ในสตรีที่ตั้งครรภ์ แต่จากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่ายาคอร์ติโคสเตอรอยด์ (corticosteroids) ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนของสัตว์ทดลอง การใช้ยาควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ยาไทรแอมซิโนโลน (triamcinolone) สามารถผ่านออกทางน้ำนมได้ และอาจก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ในทารกที่ได้รับน้ำนมมารดา
สตรีที่กำลังให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้
มีการพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการใช้ยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ (corticosteroids) ในการใช้รักษากลุ่มอาการเนโฟรติก (nephrotic syndrome) ในเด็กอายุมากกว่า 2 ปี และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งเม็ดเลือดขาวในเด็กอายุมากกว่า 1 เดือน พบว่าไม่แตกต่างกับวัยผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาการใช้ยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ในเด็กที่เป็นโรคหอบหืดที่มีอาการรุนแรง
เด็กที่ใช้ยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ ควรได้รับการตรวจวัดความดันโลหิต, บันทึกน้ำหนัก ส่วนสูง, ความดันในลูกตา และประเมินการเกิดภาวะต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อ, การเกิดภาวะลิ่มเลือดหลุดอุดตัน (thromboembolism), อาการทางจิต, แผลในทางเดินอาหาร, ต้อกระจก และกระดูกพรุน เป็นต้น
การใช้ยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ เป็นเวลานาน อาจยับยั้งการเจริญเติบโตในเด็ก ทำให้เด็กโตช้าและหยุดสูงเร็วกว่าปกติ
จำนวนของผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 65 ปีในการศึกษาการใช้ยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ (corticosteroids) มีไม่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นความแตกต่างของการตอบสนองต่อยาเมื่อเทียบกับวัยผู้ใหญ่ทั่วไป
โดยทั่วไปแล้วควรใช้ยาด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยสูงอายุ เนื่องจากมีการทำงานของตับ ไต และหัวใจที่ลดลง
ผู้ป่วยสูงอายุที่ใช้ยานี้อาจมีความดันโลหิตสูงขึ้น น้ำตาลในเลือดสูง หรือเกิดโรคกระดูกพรุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ยาเป็นระยะเวลานาน
ผู้ป่วยสูงอายุที่ใช้ยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ ควรได้รับการตรวจวัดความดันโลหิต, ความดันในลูกตา และประเมินการเกิดภาวะต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อ, การเกิดภาวะลิ่มเลือดหลุดอุดตัน (thromboembolism), อาการทางจิต, แผลในทางเดินอาหาร, ต้อกระจก และกระดูกพรุน เป็นต้น
ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่น ๆ ที่จำเป็น ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้ร่วมอยู่ด้วย
ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่น ๆ ที่จำเป็น ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้ร่วมอยู่ด้วย
แอมโฟเทอริซิน บี (amphotericin B) | แอสไพริน (aspirin) | แอทราคิวเรียม (atracurium) |
บูโพรเพียน (bupropion) | คาร์บามาซีพีน (carbamazepine) | โคลีสไทรามีน(cholestyramine) |
ซิโพรฟลอกซาซิน (ciprofloxacin) | โคลีสทิพอล (colestipol) | เดสโซเจสเทรล(desogestrel) |
ดรอสเพียรีโนน (drospirenone) | เอไคนาเชีย (echinacea) | เอสทราไดออล (estradiol) |
ฟอสเฟนิทอยน์ (fosphenytoin) | ฟิวโรซีไมด์ (furosemide) | ไฮโดรคลอโรไทอาไซด์(hydrochlorothiazide) |
อิทราโคนาโซล (itraconazole) | เลโวฟลอกซาซิน (levofloxacin) | เลโวนอร์เจสเทรล (levonorgestrel) |
ชะเอมเทศ (licorice) | โลมีฟลอกซาซิน (lomefloxacin) | เมดดรอกซีโปรเจสเทอโรน (medroxyprogesterone) |
เมสทรานอล (mestranol) | โมซิฟลอกซาซิน (moxifloxacin) | นีโอสทิกมีน (neostigmine) |
นอร์เอทินโดรน (norethindrone) | นอร์ฟลอกซาซิน (norfloxacin) | นอร์เจสทิเมต (norgestimate) |
นอร์เจสเทรล (norgestrel) | โอฟลอกซาซิน (ofloxacin) | แพนคิวโรเนียม (pancuronium) |
ฟีโนบาร์บิทอล (phenobarbital) | เฟนิทอยน์ (phenytoin) | พริมิโดน (primidone) |
ไพริโดสทิกมีน (pyridostigmine) | คิวไทอาพีน (quetiapine) | ไรแฟมพิน (rifampin) |
โรคิวโรเนียม (rocuronium) | เทรทิโนอิน (tretinoin) | วอร์ฟาริน (warfarin) |
วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า (rabies vaccine) | วัคซีนโรตาไวรัสชนิดตัวเป็น (rotavirus vaccine, live) | วัคซีนโรคหัดเยอรมันชนิดตัวเป็น (rubella virus vaccine, live) |
วัคซีนโรคฝีดาษ (smallpox vaccine) | ทอกซอยด์โรคบาดทะยัก (tetanus toxoid) | วัคซีนไทฟอยด์ (typhoid vaccine) |
วัคซีนโรคอีสุกอีใสชนิดตัวเป็น (varicella virus vaccine) | วัคซีนไข้เหลือง (yellow fever vaccine) | วัคซีนโรควัวบ้า (anthrax vaccine adsorbed) |
วัคซีนเฮโมฟิลุส บี (haemophilus B vaccine) | วัคซีนไวรัสตับอักเสบ เอ (hepatitis A vaccine, inactivated) | วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดตัวเป็น (influenza virus vaccine, live) |
วัคซีนโรคหัดชนิดตัวเป็น (measles virus vaccine, live) | วัคซีนโรคคางทูมชนิดตัวเป็น (mumps virus vaccine, live) | วัคซีนโรคไอกรน(pertussis vaccine) |
วัคซีนโรคโปลิโอชนิดตัวเป็น (poliovirus vaccine, live) |
อาจมียาอีกหลายชนิดที่ไม่ควรใช้ร่วมกับยาไทรแอมซิโนโลน (triamcinolone) ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบว่าท่านกำลังใช้ยาใดอยู่ในขณะนี้
ปัญหาความเจ็บป่วยหรือโรคที่ห้ามใช้ยาไทรแอมซิโนโลน (triamcinolone) ท่านต้องแจ้งแพทย์ หากท่านมีภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น
ขนาดยาของไทรแอมซิโนโลน (triamcinolone) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามใบสั่งยาของแพทย์หรือคำแนะนำของเภสัชกรหรือตามที่ฉลากระบุ
จำนวนครั้งของการรับประทานยาในแต่ละวัน, ระยะห่างของการรับประทานยาในแต่ละครั้งและระยะเวลาที่ท่านรับประทานยาขึ้น อยู่กับสภาวะโรคของท่าน
ควรไปพบแพทย์ตามนัด หากต้องใช้ยานี้เป็นระยะเวลานาน
ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ไม่ต้องการ ถึงแม้ว่าอาการไม่พึงประสงค์ต่อไปนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด แต่หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ก. พบแพทย์โดยเร็วหากมีอาการต่อไปนี้
พบไม่บ่อย
พบน้อย
ข. อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้ อาจเกิดขึ้นได้เมื่อใช้ยาเป็นระยะเวลานาน โปรดไปพบพบแพทย์หากท่านเกิดอาการเหล่านี้
ค. อาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาหรือหยุดยาไปแล้วเนื่องจากร่างกายจะปรับตัว เข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนาน หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
พบบ่อย
พบไม่บ่อย หรือ พบน้อย
ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้
ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้
Betamethasone , Dexamethasone (Oral), Fludrocortisone (Oral), Hydrocortisone (Oral), Prednisolone (Oral)
ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้
Acilone tablets (เอซิโลน ชนิดเม็ด), Acilone-F tablets (เอซิโลน-เอฟ ชนิดเม็ด), Aftach tablets (แอฟแทช ชนิดเม็ด), Simacort tablets (ไซมาคอร์ท ชนิดเม็ด)
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว