อ่าน: 556
Small_font Large_font

Didanosine (ไดดาโนซีน )

คำอธิบายพอสังเขป

ยาไดดาโนซีน (didanosine) ใช้ในการรักษาภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวีซึ่งทำให้เกิดโรคเอดส์หรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS) ยาไดดาโนซีนไม่สามารถรักษาภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องให้หายขาดได้ แต่อาจช่วยชะลอการดำเนินไปของโรคได้

ยาไดดาโนซีนไม่สามารถป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวีไปสู่ผู้อื่นได้ ผู้ที่รับประทานยานี้อาจยังมีอาการที่เกิดจากภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องและภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวีอยู่

ยาไดดาโนซีน (Didanosine) หรืออาจเรียกย่อว่า DDI (ดีดีไอ) อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงรวมทั้งภาวะตับอ่อนอักเสบ (pancreatitis) อาการที่บ่งบอกถึงภาวะตับอ่อนอักเสบได้แก่ ปวดท้อง, คลื่นไส้และอาเจียน

ยาไดดาโนซีนอาจทำให้เกิดภาวะปลายประสาทอักเสบ (peripheral neuropathy) ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการรู้สึกเสียว, แสบร้อน, ชาและเจ็บบริเวณฝ่ามือหรือฝ่าเท้า

ควรแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านมีอาการดังกล่าวขณะรับประทานยานี้

ยาไดดาโนซีนมีรูปแบบยาเม็ดและยาแคปซูล

ก่อนการใช้ยา

การแพ้ยา

โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆหรือมีประวัติการแพ้ยาไดดาโนซีน(didanosine) รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่น ๆ เช่น อาหาร สารกันเสียหรือสี เป็นต้น

อาหารและเครื่องดื่มที่ต้องระวัง

แจ้งบุคลากรทางการแพทย์ทุกครั้งหากท่านได้รับการจำกัดอาหารเช่น ต้องรับประทานอาหารที่มีปริมาณโซเดียมต่ำ เป็นต้น เนื่องจากยาไดดาโนซีน (didanosine) ในรูปแบบเม็ดสำหรับเคี้ยว หรือ ยาน้ำสำหรับรับประทานจะมีโซเดียมเป็นองค์ประกอบอยู่ปริมาณมาก อีกทั้งยาไดดาโนซีนในรูปแบบยาเม็ดจะมีฟีนิลอะลานีน (phenylalanine) เป็นองค์ประกอบ ซึ่งต้องจำกัดในผู้ป่วยที่มีภาวะฟีนิลคีโตนูเรีย (phenylketonuria)

ตั้งครรภ์

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'B' สำหรับสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาไม่มีความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์ หรือ จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายามีความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่พบผลดังกล่าวจากการศึกษาในมนุษย์ ดังนั้น ยาที่จัดอยู่ในประเภทนี้สามารถใช้ในสตรีมีครรภ์ได้ค่อนข้างปลอดภัย

ควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์ทุกครั้งก่อนใช้ยานี้เนื่องจากยาไดดาโนซีน (didanosine) สามารถแพร่ผ่านรกได้ แม้ว่ายังไม่มีการศึกษาในสตรีมีครรภ์ แต่จากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า ยานี้ทำให้เกิดทารกวิรูปหรือปัญหาอื่น ๆ ได้ อีกทั้งยังไม่ทราบว่า ยาไดดาโนซีนจะลดโอกาสการคลอดบุตรจากมารดาที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีด้วยหรือไม่

ดังนั้นก่อนใช้ยานี้ ควรแจ้งแพทย์หากท่านกำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนที่จะตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากท่านรับประทานยาไดดาโนซีน ร่วมกับยาสทาวูดีน

กำลังให้นมบุตร

ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ยาไดดาโนซีน (didanosine) สามารถแพร่ผ่านน้ำนมได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามในระหว่างที่มีภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เชื้ออาจแพร่ผ่านน้ำนมสู่ทารกที่ดื่มนมและทำให้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีได้ จึงไม่ควรให้นมบุตรในขณะที่รับประทานยานี้

เด็ก

ยาไดดาโนซีน (didanosine) สามารถทำให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงได้ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับทราบข้อดีข้อเสียก่อน หากจำเป็นต้องรับประทานยานี้ ควรนำเด็กไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอและควรเฝ้าระวังผลไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้

ผู้สูงอายุ

ยังไม่ทราบว่ายาไดดาโนซีน (didanosine) ทำให้เกิดอาการข้างเคียง, ปัญหาใด ๆ ที่แตกต่างกันในผู้สูงอายุกับผู้ป่วยวัยอื่นหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบการใช้ยานี้ในผู้สูงอายุกับวัยอื่น ๆ

ยาอื่นที่ใช้อยู่

ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น เมื่อท่านต้องการจะรับประทานยาไดดาโนซีน (didanosine) ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้อยู่

  • เครื่องดื่มหรือยาที่มีแอลกอฮอล์ (alcohol) เป็นองค์ประกอบ
  • อัลโลพูรินอล (allopurinol)
  • แอสพาราจีเนส (asparaginase)
  • แอซาไทโอพรีน (azathioprine)
  • คลอแรมเฟนิคอล (chloramphenicol)
  • ซิสแพลทิน (cisplatin)
  • เอสโตรเจน (estrogens)
  • อีแทมบิวทอล (ethambutol)
  • อีไทโอนาไมด์ (ethionamide)
  • ฟรูโรซีไมด์ (furosemide)
  • ไฮดราลาซีน (hydralazine)
  • ไอโซไนอาซิด (isoniazid)
  • ลิเทียม (lithium)
  • เมทิลโดปา (methyldopa)
  • เมโทรนิดาโซล (metronidazole)
  • ไนตรัสออกไซด์ (nitrous oxide)
  • เพนทามิดีน (pentamidine)
  • เฟนิทอยด์ (phenytoin)
  • สทาวูดีน (stavudine)
  • ซัลโฟนาไมด์ (sulfonamides)
  • ซูลินแดค (sulindac)
  • ยาขับปัสสาวะกลุ่มไทอาไซด์ (thiazide diuretics)
  • กรดวาลโปรอิก (valproic acid)
  • วินคริสทีน(vincristine)
  • ซาลไซตาบีน (zalcitabine)

การใช้ยาต้านแบคทีเรียกลุ่มควิโนโลน (quinolones) ร่วมกับยาไดดาโนซีนอาจทำให้ยาทั้งสองออกฤทธิ์ลดลง หากจำเป็นต้องรับประทานยาด้วยกัน ควรรับประทานยากลุ่มนี้ให้ห่างจากยาไดดาโนซีนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

  • ซิโพรฟลอกซาซิน (ciprofloxacin)
  • อีนอกซาซิน (enoxacin)
  • อิทราโคนาโซล (itraconazole)
  • คีโทโคนาโซล (ketoconazole)
  • โลมีฟลอกซาซิน (lomefloxacin)
  • นอร์ฟอกซาซิน (norfloxacin)
  • โอฟอกซาซิน (ofloxacin)

การใช้ยาแดปโซน (dapsone) ร่วมกับยาไดดาโนซีนอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดปลายประสาทอักเสบ (รู้สึกเสียว ปวดแสบปวดร้อน ชาบริเวณปลายมือปลายเท้า) ได้มากขึ้น อีกทั้งยาแดปโซนอาจออกฤทธิ์ได้ไม่ดี ดังนั้นหากจำเป็นต้องใช้ยาทั้ง 2 ชนิด ควรรับประทานยาแดปโซนก่อนหรือหลังรับประทานยาไดดาโนซีนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

การใช้ยาเททราไซคลิน (tetracyclines) ร่วมกับยาไดดาโนซีนอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดภาวะตับอ่อนอักเสบ (pancreatitis) อีกทั้งทำให้ยาเททราไซคลินออกฤทธิ์ลดลง ดังนั้นควรรับประทานยาเททราไซคลินก่อนหรือหลังรับประทานยาไดดาโนซีนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

การใช้ยาไนโตรฟิวแรนทอยด์ (nitrofurantoin) ร่วมกับยาไดดาโนซีนอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดภาวะตับอ่อนอักเสบ (pancreatitis) และปลายประสาทอักเสบ(รู้สึกเสียว ปวดแสบปวดร้อน ชาบริเวณปลายมือปลายเท้า)ได้มากขึ้น

การใช้ยาแกนไซโคลเวียร์ (ganciclovir) ร่วมกับยาไดดาโนซีน อาจทำให้ยาทั้งสองออกฤทธิ์ลดลง ดังนั้นควรรับประทานยานี้หลังยาไดดาโนซีนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

การใช้ยาเดลาเวียร์ดีน (delavirdine) หรือ อินดินาเวียร์ (indinavir) ร่วมกับยาไดดาโนซีนอาจทำให้ยาทั้งสองออกฤทธิ์ลดลง ดังนั้นควรรับประทานยานี้ก่อนยาไดดาโนซีนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง

ภาวะโรคร่วม

ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยาไดดาโนซีน (didanosine) ท่านควรแจ้งแพทย์หากท่านมีสภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

  • ภาวะติดแอลกอฮอล์
  • ภาวะไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง
  • ภาวะตับอ่อนอักเสบ (pancreatitis) หรือมีประวัติเคยเป็นตับอ่อนอักเสบ

ผู้ป่วยที่มีภาวะเหล่านี้จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะตับอ่อนอักเสบ (pancreatitis) มากขึ้น

  • ภาวะบวม
  • โรคเกี่ยวกับหัวใจ
  • ภาวะความดันโลหิตสูง
  • โรคเกาต์
  • โรคตับ
  • โรคไต
  • ภาวะครรภ์เป็นพิษ
  • ภาวะปลายประสาทอักเสบ

ยาไดดาโนซีน (didanosine) รูปแบบยาเม็ดจะมีฟีนิลคีโตนูเรียเป็นองค์ประกอบซึ่งต้องจำกัดในผู้ป่วยที่มีภาวะฟีนิลคีโตนูเรีย

การใช้ที่ถูกต้อง

  • ควรรับประทานยานี้ตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ห้ามรับประทานในปริมาณที่มากกว่า, บ่อยกว่าหรือเป็นระยะเวลานานกว่าที่แพทย์สั่ง รวมทั้งห้ามหยุดยาเองหากแพทย์ไม่ได้สั่ง เว้นแต่มีอาการข้างเคียงของยารุนแรง และต้องรีบไปพบแพทย์
  • ควรรับประทานยาให้ครบระยะเวลาในการรักษาแม้อาการของจะดีขึ้นแล้วก็ตาม
  • ควรรับประทานยานี้ขณะท้องว่างเนื่องจากอาหารอาจลดการดูดซึมยาและทำให้ยาออกฤทธิ์ไม่ได้ ดังนั้นควรรับประทานยาไดดาโนซีน (didanosine) อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนอาหารหรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 2-3 ลิตร เว้นแต่แพทย์สั่งให้จำกัดการดื่มน้ำ
  • ยานี้อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งอาจบรรเทาได้โดยการรับประทานอาหารครั้งละน้อย ๆ แต่รับประทานบ่อย ๆ หรือ อมลูกอม หรือเคียวหมากฝรั่ง แต่หากมีอาการคลื่นไส้, อาเจียนและปวดท้องอย่างรุนแรง หรือเป็นไม่ยอมหาย ควรหยุดยาทันทีแล้วไปพบแพทย์ทันที
  • ยานี้จะออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดเมื่อมีระดับยาในกระแสเลือดคงที่ เพื่อช่วยให้ระดับยาคงที่ จึงควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลา และจะดีที่สุดหากรับประทานยาโดยเว้นระยะเวลาระหว่างมื้อยาเท่า ๆ กัน เช่น หากท่านต้องรับประทานยาวันละ 4 ครั้ง ระยะห่างระหว่างมื้อยาควรเป็นทุก ๆ 6 ชั่วโมง แต่หากการรับประทานยาเช่นนี้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันหรือการนอนหลับของท่านควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อให้ช่วยวางแผนการรับประทานยาให้เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
  • ควรรับประทานเฉพาะยาที่แพทย์สั่งและห้ามใช้ยาร่วมกับผู้อื่น

ขนาดยา

ขนาดยาของยาไดดาโนซีน (didanosine) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำหรือตามที่ระบุไว้บนฉลากยา

จำนวนครั้งของการรับประทานยาในแต่ละวัน, ระยะห่างของการรับประทานยาในแต่ละครั้งและระยะเวลาที่ท่านรับประทานยาขึ้นอยู่กับสภาวะโรคของท่านที่ท่านต้องรับประทานยาไดดาโนซีน

เมื่อลืมใช้ยา

หากท่านลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ ถ้าใกล้ถึงมื้อต่อไปให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า

การเก็บรักษา

  • เก็บให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บให้ห่างจากความร้อนและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • ห้ามเก็บยาไว้ในห้องน้ำ ใกล้อ่างล้างมือหรือที่ชื้น เนื่องจากความร้อนหรือความชื้นอาจเป็นสาเหตุให้ยาเสื่อมคุณภาพ
  • ทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ

ข้อควรระวัง

ท่านควรไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อแพทย์จะได้ตรวจติดตามความเป็นไปของโรคในระหว่างที่กำลังรักษาด้วยยานี้

ห้ามรับประทานยาใดๆโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากการรับประทานยาบางชนิดอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดผลไม่พึงประสงค์จากยาไดดาโนซีน (didanosine) ได้

เชื้อไวรัสเอชไอวีอาจแพร่สู่ผู้อื่นได้โดยผ่านของเหลวต่างๆของร่างกายรวมทั้งเลือด, ของเหลวที่ช่องคลอดหรือน้ำอสุจิ หากท่านมีภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ท่านควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นรวมทั้งการแลกเปลี่ยนของเหลวต่างๆของร่างกาย เช่น การให้เลือด เป็นต้น แต่หากท่านต้องการมีเพศสัมพันธ์ ท่านหรือคู่นอนของท่านต้องสวมใส่ถุงยางอนามัยเสมอ ถุงยางอนามัยที่ใช้ต้องทำมาจากยางเท่านั้นและใช้ทุกครั้งที่ท่านมีเพศสัมพันธ์ทั้งทางช่องคลอด, ทวารหนักหรือทางปาก สำหรับการใช้ยาฆ่าเชื้ออสุจิ เช่น โนโนไซนอล-เก้า (nonoxynol-9) อาจช่วยป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวีได้บ้าง หากท่านใช้แล้วไม่เกิดอาการระคายเคืองช่องคลอด, ทวารหนักหรือปาก จากผลการทดลองในห้องปฏิบัติการพบว่ายาฆ่าอสุจินี้สามารถฆ่าเชื้อไวรัสเอชไอวีได้

ห้ามใช้เจลหล่อลื่นที่มีส่วนประกอบของไขมันเป็นหลักเนื่องจากผลิตภัณฑ์พวกนี้อาจทำให้ถุงยางอนามัยฉีกขาดได้ หากท่านต้องการใช้เจลหล่อลื่น ควรใช้เจลหล่อลื่นที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักเช่น เค-วายเจล (K-Y jelly) เป็นต้น สำหรับผู้หญิงควรสวมใส่ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงเนื่องจากการรับประทานยาคุมกำเนิดหรือใส่ห่วงคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ไม่สามารถป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวีได้

หากท่านกำลังใช้ยาฉีดอยู่ ห้ามใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น

หากท่านมีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

อาการไม่พึงประสงค์

ยาอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ต้องการ ถึงแม้ว่าอาการข้างเคียงต่อไปนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่หากเกิดอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นหรือท่านมีข้อสงสัยใดๆควรกลับไปพบแพทย์ทันที

ก. ควรพบแพทย์ทันที หากมีอาการไม่พึงประสงค์ต่อไปนี้เกิดขึ้น

พบน้อย

  • คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดท้อง, รู้สึกเสียว ปวดแสบปวดร้อน ชาบริเวณปลายมือหรือปลายเท้า

พบน้อยมาก

  • ชัก, มีไข้ หนาวสั่น, หายใจถี่, มีผื่นตามผิวหนังและมีอาการคัน, เจ็บคอ, เท้าหรือขาบวม, มีจ้ำเลือดหรือเลือดออกมากผิดปกติ, อ่อนเพลียและเหนื่อยล้ามากผิดปกติ, ตัวเหลืองตาเหลือง

ข.ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนานหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน

พบบ่อย

  • กระวนกระวาย, ท้องร่วง, หลับยาก, ปากแห้ง, ปวดศีรษะ, อยู่ไม่นิ่ง, ลุกลี้ลุกลน

ค. อาการข้างเคียงอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการข้างเคียงอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อมูลเพิ่มเติม

หากใช้ยานี้เป็นเวลานาน แพทย์อาจนัดตรวจเลือดเป็นระยะ และต้องตรวจตาทุก 6 -12 เดือน
ยานี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกระจายตัวของไขมันบริเวณต่าง ๆ ร่างกาย โดยมีไขมันเพิ่มบริเวณไหล่ คอ และรอบลำตัว แต่มีการสูญเสียไขมันบริเวณแขน ขาและใบหน้า ทำให้แขนขาเล็กลง แก้มตอบ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงตามปกติของยานี้
ยานี้อาจทำใ้ห้กล้ามเนื้อหัวใจตาย ให้พบแพทย์ทันทีหากมีอาการเจ็บหน้าอก ใจสั่น หัวใจเต้นผิดปกติ หรือสงสัยว่าเป็นโรคหัวใจ **หากมีอาการชาหรือหมดความรู้สึกที่นิ้วมือ นิ้วเท้า หรือเท้า ให้แจ้งแพทย์ทันที

กลุ่มยา

ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้

ยาที่เกี่ยวข้อง

ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้

Abacavir, Abacavir, lamivudine, zidovudine, Amprenavir, Delavirdine, Efavirenz, Indinavir, Lamivudine, Lopinavir+ritonavir, Nevirapine, Ritonavir, Saquinavir, Tenofovir, Zidovudine

ชื่อทางการค้า

ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้

Divir tab (ไดเวอร์), Videx EC enteric-coated cap (ไวเดกซ์ แคปซูล)

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว

แหล่งอ้างอิง

  1. Micromedex Thomson Healthcare. Advice for the Patient Drug Information in Lay Language USP DI, volume ll. 25th ed. Massachusetts: Micromedex Thomson Healthcare, 2005: 608-11.
  2. Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at: http://www.thomsonhc.com (cited: Dec 12, 2010).
  3. Joint Formulary Committee. British National Formulary. 57th ed. London: British Medical Association and Royal Pharmaceutical Society of Great Britain, 2009: 639.
  4. Sunthornraj N, Fun LF, Evangelista LF, Labandilo LD, Romano MB, Afable JO, et al. MIMs Thailand. 106th ed. Bangkok: MediMedia (Thailand); 2007.

หทัยรัตน์ คังคะสุวรรณ
โพยม วงศ์ภูวรักษ์
22 มกราคม 2554 07 เมษายน 2554
เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย