อ่าน: 1069
Small_font Large_font

Tenofovir (ทีโนโฟเวียร์)

คำอธิบายพอสังเขป

ยาทีโนโฟเวียร์(tenofovir) ใช้เป็นยาร่วมกับยาอื่นๆในการรักษาภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (human immunodeficiency virus, HIV) ซึ่งทำให้เกิดโรคเอดส์หรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS)

ยาทีโนโฟเวียร์ไม่สามารถรักษาหรือป้องกันภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องได้ แต่ยานี้จะช่วยชะลอการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสเอชไอวี และการเกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องให้ช้าลงซึ่งอาจช่วยชะลอการเกิดอาการหรือปัญหาต่างๆเนื่องจากภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ยาทีโนโฟเวียร์ไม่สามารถป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวีจากท่านไปสู่ผู้อื่นได้ ผู้ที่ได้รับยานี้ยังอาจเกิดปัญหาต่างๆที่มักเกิดจากภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ในประเทศไทยมียาในรูปแบบยาเม็ดเคลือบฟิล์ม

ก่อนการใช้ยา

การแพ้ยา

โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆหรือมีประวัติการแพ้ยาทีโนโฟเวียร์ (tenofovir) รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่น ๆ เช่น อาหาร สารกันเสียหรือสี เป็นต้น

ตั้งครรภ์

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'B' สำหรับสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาไม่มีความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์ หรือ จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายามีความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่พบผลดังกล่าวจากการศึกษาในมนุษย์ ดังนั้น ยาที่จัดอยู่ในประเภทนี้สามารถใช้ในสตรีมีครรภ์ได้ค่อนข้างปลอดภัย

มีการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่ายาทีโนโฟเวียร์ (tenofovir) ไม่ทำให้ตัวอ่อนเกิดความพิการหรือวิรูปหรือปัญหาใด ๆ แต่ยังไม่มีการศึกษาผลของยาทีโนโฟเวียร์ในสตรีมีครรภ์ จึงควรใช้ยานี้ด้วยความระมัดระวัง

สตรีตั้งครรภ์หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้

กำลังให้นมบุตร

ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายาทีโนโฟเวียร์ (tenofovir) สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมของมนุษย์ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามในระหว่างที่มีภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เชื้ออาจแพร่ผ่านน้ำนมสู่ทารกที่ดื่มนมและทำให้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีได้

เด็ก

ยังไม่เคยมีการศึกษายาทีโนโฟเวียร์ (tenofovir) ในเด็กและมีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับการใช้ยานี้ในเด็กเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงอายุอื่น ๆ

ผู้สูงอายุ

ยังไม่ทราบว่ายาทีโนโฟเวียร์ (tenofovir) ทำให้เกิดอาการข้างเคียง, ปัญหาใด ๆ ที่แตกต่างกันในผู้สูงอายุกับผู้ป่วยวัยอื่นหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบการใช้ยาทีโนโฟเวียร์ในผู้สูงอายุกับวัยอื่น ๆ

ยาอื่นที่ใช้อยู่

ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่มียาสองชนิดแตกต่างกัน อาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม ในกรณีนี้แพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆที่จำเป็น เมื่อท่านต้องการจะรับประทานยาทีโนโฟเวียร์ (tenofovir) ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้อยู่ เช่น

  • การใช้ยาไดดาโนซีน (didanosine) ร่วมกับทีโนโฟเวียร์ ควรรับประทานยาทีโนโฟเวียร์ก่อนยาไดดาโนซีน 2 ชั่วโมงหรือหลังจากรับประทานยาไดดาโนซีน ไปแล้ว 1 ชั่วโมง

ภาวะโรคร่วม

ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการรับประทานยาทีโนโฟเวียร์ (tenofovir) ท่านควรแจ้งแพทย์หากท่านมีภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น

  • โรคไต
  • โรคตับหรือปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับตับ

การใช้ที่ถูกต้อง

  • ควรรับประทานยาทีโนโฟเวียร์ (tenofovir) พร้อมอาหารเพื่อให้สามารถดูดซึมยาให้ได้ปริมาณมากที่สุด
  • ยานี้อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้อง ซึ่งอาจบรรเทาได้โดยการรับประทานอาหารครั้งละน้อย ๆ แต่รับประทานบ่อย ๆ หรือ อมลูกอม หรือเคียวหมากฝรั่ง
  • ต้องรับประทานยาทีโนโฟเวียร์ตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด ห้ามรับประทานในจำนวนที่มากกว่าหรือบ่อยกว่าที่แพทย์สั่ง รวมทั้งห้ามหยุดรับประทานยาเองหากแพทย์ไม่ได้สั่ง
  • ควรดื่มน้ำมาก ๆ ประมาณ 2-3 ลิตรต่อวัน เว้นแต่แพทย์สั่งให้ท่านจำกัดการดื่มน้ำ
  • ควรรับประทานยาให้ครบระยะเวลาในการรักษาแม้อาการของท่านจะดีขึ้นแล้วก็ตาม
  • ยาทีโนโฟเวียร์จะออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดเมื่อมีระดับยาในกระแสเลือดคงที่ เพื่อช่วยให้ระดับยาในกระแสเลือดคงที่ ควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลา

ขนาดยา

ขนาดยาของยาทีโนโฟเวียร์ (tenofovir) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ เภสัชกรหรือ ตามที่ระบุไว้บนฉลากยา

จำนวนครั้งของการรับประทานยาในแต่ละวัน,ระยะห่างของการรับประทานยาในแต่ละครั้งและระยะเวลาที่ท่านรับประทานยาขึ้นอยู่กับสภาวะโรคของท่านที่ท่านต้องรับประทานยาทีโนโฟเวียร์

เมื่อลืมใช้ยา

หากท่านลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ ถ้าใกล้ถึงมื้อต่อไปให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า

การเก็บรักษา

  • เก็บให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บให้ห่างจากความร้อนและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • ห้ามเก็บยาไว้ในห้องน้ำ ใกล้อ่างล้างมือหรือที่ชื้น เนื่องจากความร้อนหรือความชื้นอาจเป็นสาเหตุให้ยาเสื่อมคุณภาพ
  • ทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ

ข้อควรระวัง

ท่านควรมาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามความเป็นไปของโรคและผลไม่พึงประสงค์จากยาที่อาจเกิดขึ้นได้

ยาทีโนโฟเวียร์ (tenofovir) อาจทำให้เกิดปัญหาที่ร้ายแรงคือเลือดมีภาวะเป็นกรดจากกรดแลกติก (lactic acidosis) และทำให้ตับโต (้hepatomegaly) แบบรุนแรง ร่วมกับถ่ายอุจจาระเป็นไขมัน (steatosis) และอาจทำให้เสียชีวิตได้ จึงต้องระมัดระวังการใช้ในผู้เป็นโรคเกี่ยวกับตับ หรือ มีความเสี่ยงในการเป็นโรคตับ

ยานี้อาจทำให้มึนงงหรือปวดศีรษะ ควรระมัดระวังการขับรถ หรือ ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล หรือ งานที่ต้องการความระมัดระวังสูง จนกว่าจะทราบว่ายานี้ไม่ไ้ด้ทำให้ท่านมีปัญหาดังกล่าว

ท่านควรไปพบแพทย์ทันทีหากสังเกตพบว่ามีอาการดังต่อไปนี้

อาการไม่พึงประสงค์

ยาอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ต้องการ ถึงแม้ว่าอาการข้างเคียงต่อไปนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด แต่หากเกิดอาการข้างเคียงขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม

ก.ควรพบแพทย์ทันที หากมีอาการข้างเคียงต่อไปนี้เกิดขึ้น

  • รู้สึกชา ปวด หรือไม่มีความรู้สึกบริเวณนิ้วเท้า เท้า กล้ามเนื้อ หรือกระดูก
  • ต่อมน้ำเหลืองโต
  • บวมบริเวณแขนขา
  • ไม่สบายท้อง, ท้องร่วง
  • เบื่ออาหาร
  • หายใจเร็วและหายใจได้ตื้น ๆ หายใจถี่,
  • รู้สึกไม่สบายตัว, ปวดหรือเกร็งกล้ามเนื้อ
  • อ่อนเพลียหรือเหนื่อยล้ามากผิดปกติ

ข.ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนานหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน

พบบ่อย

  • ไม่มีแรง, อาเจียน

พบน้อย

  • เรอ, น้ำหนักลด

ค. อาการข้างเคียงอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการข้างเคียงอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อมูลเพิ่มเติม

ในกรณีที่ต้องใช้ยาเป็นเวลานาน แพทย์อาจตรวจเลือดของผู้ใช้ยาเป็นระยะ เพื่อติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากยา

กลุ่มยา

ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้

ยาที่เกี่ยวข้อง

ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้

Abacavir, Abacavir, lamivudine, zidovudine, Amprenavir, Delavirdine, Didanosine , Efavirenz, Indinavir, Lamivudine, Lopinavir+ritonavir, Nevirapine, Ritonavir, Saquinavir, Zidovudine

ชื่อทางการค้า

ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้

Viread film-coated tab (ไวหลีด)

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว

แหล่งอ้างอิง

  1. Micromedex Thomson Healthcare. Advice for the Patient Drug Information in Lay Language USP DI, volume ll. 25th ed. Massachusetts: Micromedex Thomson Healthcare, 2005: 1503-5.
  2. Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at: http://www.thomsonhc.com (cited: Dec 12, 2010).
  3. Sunthornraj N, Fun LF, Evangelista LF, Labandilo LD, Romano MB, Afable JO, et al. MIMs Thailand. 106th ed. Bangkok: MediMedia (Thailand); 2007.

หทัยรัตน์ คังคะสุวรรณ
โพยม วงศ์ภูวรักษ์
23 มกราคม 2554 06 เมษายน 2554
เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย